ไส้ติ่งอักเสบ (Appendicitis)
โดย นพ.อาณัติ วณิชชากร ศัลยแพทย์ โรงพยาบาลแมคคอร์มิค
ไส้ติ่งเป็นส่วนขยายของลำไส้ใหญ่ส่วนต้น
อยู่ทางขวาของช่องท้องส่วนล่าง ในภาษาอังกฤษเรียกว่า vermiform
appendix (ติ่งรูปหนอน) แต่ความจริงไส้ติ่งมีลักษณะเป็นถุงแคบและยาว
ปากถุงต่อกับลำไส้ใหญ่ส่วนซีกัม(caecum) กว้างเพียง 5-8 มม.ก้นถุงลึกประมาณ
8-10 ซม.(ในผู้ใหญ่)
ไส้ติ่งอักเสบเป็นโรคที่เกิดกับไส้ติ่ง
เป็นอาการที่เกิดขึ้นอย่างฉับพลัน ซึ่งถือว่าเป็นภาวะฉุกเฉินทางการแพทย์ ผู้ป่วยไส้ติ่งอักเสบทุกรายต้องได้รับการผ่าตัดเอาไส้ติ่งออก
หากไม่ได้รับการรักษา หรือปล่อยปละละเลย จะมีอัตราการตายสูง
การเสียชีวิตส่วนใหญ่เกิดจากภาวะ เยื่อบุช่องท้องอักเสบและภาวะช็อค
สาเหตุ
เกิดจากการที่มีการอุดตันของไส้ติ่ง โดยอาจจะอุดตันจากเศษอุจจาระขนาดเล็ก
วัตถุแปลกปลอม หรือตัวพยาธิ
ทำให้ไม่มีการระบายถ่ายเทและเกิดการเพิ่มความดันภายในไส้ติ่ง ซึ่งต่อมาจะทำให้ไส้ติ่งบวม
แดง มีการเจริญเติบโตของแบคทีเรียอย่างรวดเร็ว ทำให้เกิดเป็นหนอง
และถ้าเป็นมากขึ้นก็อาจทำให้ไส้ติ่งแตก
อาการไส้ติ่งอักเสบที่เราสามารถสังเกตได้เบื้องต้น มีดังนี้
1.ปวดท้องบริเวณสะดือ
สัญญาณแรกของอาการไส้ติ่งอักเสบนั้นจะเริ่มแสดงให้เห็นจากการปวดท้องด้านขวาล่าง
แล้วจึงค่อยๆ ปวดตรงบริเวณสะดือ และจะเคลื่อนลงไปที่ช่องท้องส่วนล่าง ซึ่งในบางราย
อย่างเช่นเด็กและสตรีมีครรภ์อาจจะเกิดอาการปวดที่ส่วนอื่นๆ ของช่องท้อง
อาการปวดเหล่านี้จะยิ่งเลวร้ายลงหากขยับขาและบริเวณท้องซึ่งมาจากการไอ จาม หรือสั่นสะเทือนในขณะที่นั่งอยู่บนรถที่ขับในทางขรุขระ
2.เกิดอาการปวดท้องอย่างเฉียบพลัน
อาการปวดที่บริเวณส่วนล่างของช่องท้องจะหนักขึ้น
จนทำให้ผู้ป่วยรู้สึกว่าเป็นการปวดที่มากที่สุดในชีวิต ซึ่งอาการไส้ติ่งอักเสบนั้นมีความรุนแรงมากพอที่จะปลุกผู้ป่วยที่กำลังหลับอยู่ให้ตื่นขึ้นมาได้
โดยอาการปวดท้องนี้จะทวีความเจ็บปวดมากขึ้นในเวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมง
3.มีไข้ต่ำๆและหนาวสั่น
อาการไส้ติ่งอักเสบนั้นคล้ายคลึงกับอาการปวดท้องที่เนื่องมาจากอาการติดเชื้อบางอย่างที่ไม่รุนแรง
และจะส่งผลให้เกิดไข้ต่ำๆ และอาการหนาวสั่นได้ ซึ่งถ้าหากคุณมีอาการไข้ต่ำๆ
เพียงอย่างเดียวก็ไม่จำเป็นต้องกังวลอะไร แต่ถ้าหากคุณมีอาการไข้ต่ำๆ
รวมกับอาการปวดท้อง จนทำให้คุณไม่มีแรงยืนขึ้นให้ตรงได้ แสดงว่าคุณเป็นไส้ติ่งอักเสบแล้ว
4.คลื่นไส้ อาเจียน และเบื่ออาหาร
ถ้าหากในช่วง2 - 3วันมีอาการเบื่ออาหารร่วมกับอาการคลื่นไส้อาเจียน
มักจะเป็นอาการที่เกี่ยวข้องกับการติดเชื้อบางชนิดที่ไม่รุนแรง
แต่ถ้าหากอาการเลวร้ายลง มีอาการไข้และปวดบริเวณช่องท้องด้านขวาล่าง
ควรจะรีบไปพบแพทย์
5.ท้องผูกหรือท้องเสีย
ถ้าหากมีอาการท้องเสียไม่รุนแรงและมูกปนออกมาด้วยมากผิดปกติร่วมกับอาการปวดช่องท้องด้านขวาล่าง
มักแสดงถึงอาการไส้ติ่งอักเสบ
6.ท้องอืด และมีแก๊สในกระเพาะอาหาร
มักจะมีอาการท้องอืดและแก๊สในกระเพาะอาหารติดต่อกันมากกว่า
2 วัน พร้อมกับอาการปวดภายในช่องท้องโดยเฉพาะปวดท้องด้านขวาล่าง ร่วมกับมีอาการไข้
การรักษา
หากว่ามีอาการดังกล่าวหรือสงสัยว่าจะเป็นควรรีบไปพบแพทย์
ซึ่งในระหว่างนี้ควรงดน้ำและอาหารก่อน
ซึ่งการรักษาในปัจจุบันที่ดีที่สุดคือการผ่าตัดเอาไส้ติ่งออก การกินยาแก้ปวดหรือฉีดยาแก้ปวด
อาจจะทำให้อาการปวดลดลงได้ แต่จะเป็นผลเสียกับคนไข้ เพราะจะทำให้ตรวจพบได้ช้า
และกว่าจะมาปวดอีกที ไส้ติ่งอาจจะแตกแล้วก็ได้
ไส้ติ่งอักเสบ เป็นอาการที่จำเป็นจะต้องได้รับการรักษาอย่างเร่งด่วน
หากทิ้งไว้เรื้อรังอาจเป็นอันตรายได้ ดังนั้นถ้าหากมีอาการอย่างที่กล่าวมาข้างต้น
ควรจะรีบไปพบแพทย์อย่างด่วนเลยนะคะ เพื่อความปลอดภัยในชีวิต
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น