การตรวจการได้ยินในทารกแรกเกิด
บทความโดยแพทย์หญิงอโณทัย พรเลิศ (โสต ศอ นาสิกแพทย์)
การได้ยินเป็นประสาทสัมผัสที่สำคัญสำหรับเด็ก มีผลต่อพัฒนาการทางภาษา
การสื่อความหมายด้วยการพูด และการเรียนรู้
ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญในการพัฒนาด้านอารมณ์และสังคมต่อไป ดังนั้นเด็กที่มีความผิดปกติทางการได้ยินควรได้รับการตรวจวินิจฉัยเพื่อหาสาเหตุของการสูญเสียการได้ยินและรับการช่วยเหลือฟื้นฟูในทันที
มีการศึกษาพบว่าเด็กหูเสื่อมที่ได้รับการวินิจฉัยเมื่ออายุยังน้อย
จะได้ประโยชน์จากการฟื้นฟูมากที่สุด
ภาวะสูญเสียการได้ยินในทารกแรกเกิด
เป็นปัณหาที่พบบ่อยในประเทศที่กำลังพัฒนา
มีรายงานอัตราการเกิดภาวะสูญเสียการได้ยินในเด็กทารกได้มากถึง 1-2 ราย ต่อ 1,000 รายของทารกที่เกิดใหม่ต่อปี โดยพบในอัตราที่มากขึ้นในทารกกลุ่มเสี่ยงได้แก่
ทารกแรกเกิดที่มีน้ำหนักแรกคลอดน้อยกว่า
1,500 กรัมหรือคลอดก่อนกำหนด
มีความผิดปกติของศีรษะ ใบหน้า
และหูตั้งแต่กำเนิด
· มารดาได้รับยาหรือสารที่เป็นพิษต่อเด็กขณะตั้งครรภ์
มารดามีการติดเชื้อขณะตั้งครรภ์
ภาวะตัวเหลืองจนต้องถ่ายเลือด
มีบุคคลในครอบครัวเป็นโรคประสาทหูพิการ
เป็นใบ้ตั้งแต่กำเนิด
มีปัญหาระหว่างคลอด แรกคลอดต้องอยู่ในหออภิบาลผู้ป่วยแรกเกิด
ได้ใช้เครื่องช่วย หายใจ ได้รับยาที่มีพิษต่อหู
ภาวะขาดออกซิเจนขณะอยู่ในครรภ์มารดาหรือระหว่างคลอด
มีลักษณะที่เข้ากับโรคทางพันธุกรรมที่มีความผิดปกติทางการได้ยิน
การตรวจการได้ยินตั้งแต่แรกเกิดจึงมีความสำคัญ ในประเทศอเมริกาแนะนำให้เด็กแรกเกิดจนถึง 1 เดือน
ต้องได้รับการตรวจการได้ยินเบื้องต้นเพื่อคัดกรอง
และเด็กควรได้รับการยืนยันการวินิจฉัยอายุไม่เกิน 3 เดือน
ปัจจุบันมีการนำเครื่องมือเพื่อตรวจคัดกรองการได้ยินในทารกแรกเกิดที่เรียกว่า
OAE (Otoacoustic emission) โดยใช้ตรวจวัดเสียงสะท้อนจากหูชั้นใน
ทำได้ง่ายขณะเด็กหลับตามธรรมชาติหรือนอนนิ่งๆในห้องที่เงียบ ไม่ต้องใช้ยานอนหลับ ไม่ทำให้เด็กเจ็บปวด
เพียงใช้เสียงกระตุ้นเข้าไปในหูทั้งสองข้าง แล้วรอการประมวลผลจากเครื่องตรวจ
ทราบผลทันทีเมื่อสิ้นสุดการตรวจ หากผลการตรวจไม่ผ่านในครั้งแรก แพทย์หู คอ จมูกจะมีการนัดเพื่อตรวจซ้ำ หรือส่งตรวจเพิ่มเติมเพื่อยืนยันการวินิจฉัยและให้การฟื้นฟูต่อไป
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น