การส่องกล้องตรวจลำไส้ใหญ่ (Colonoscopy)
ปัจจุบันในการดำเนินชีวิตของมนุษย์เรานั้น
การบริโภคอาหารซึ่งเป็นหนึ่งในปัจจัยสี่ของที่เราทำอยู่เป็นประจำอาจทำให้เราหลงลืมที่จะระมัดระวังในการเลือกบริโภค
ซึ่งส่วนใหญ่เราคำนึงถึงแต่รสชาติอาหารมากกว่าคุณประโยชน์ที่เราจะได้รับ
และอาหารบางประเภทอาจส่งผลต่อร่างกายเราอย่างเงียบๆ โดยที่เราไม่รู้ตัวทั้งนี้
ในกระบวนการของร่างกาย เมื่อเรารับประทานอาหารเข้าไป
อาหารจะถูกย่อยในกระเพาะอาหารและถูกดูดซึมในลำไส้เล็ก จากนั้นเศษอาหารจะเคลื่อนสู่ลำไส้ใหญ่ ซึ่งมีความยาวประมาณ 5 ฟุต
โดยลำไส้ใหญ่จะทำหน้าที่ดูดซึมน้ำและเกลือแร่บางอย่างที่เหลือจากการดูดซึมจากลำไส้เล็ก
ทำให้กากอาหารมีลักษณะแข็งขึ้นเรื่อยๆและผ่านเข้าสู่ทวารหนักก่อนที่จะขับออกจากร่างกาย
แต่ทั้งนี้ หากร่างกายไม่ได้ถูกขับถ่ายออกปกติก็จะทำให้กากอาหารเหล่านั้นสะสมอยู่ในร่างกาย
ซึ่งอาจส่งผลเสียต่อร่างกายของเรา
และอาจนำไปสู่การเกิดโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่และทวารหนักได้
ซึ่งการค้นหาความผิดปกติต่างๆมีอยู่หลายวิธี
การส่องกล้องตรวจลำไส้ใหญ่เป็นอีกวิธีที่มีความปลอดภัย และมีประสิทธิภาพในการประเมินปัญหาลำไส้ใหญ่
การส่องกล้องตรวจลำไส้ใหญ่
(Colonoscopy)
เป็นวิธีที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพในการประเมินปัญหาในลำไส้ใหญ่
โดยใช้กล้องส่องลำไส้ใหญ่ (colonoscope) ซึ่งมีลักษณะเป็นท่อขนาดเล็ก
ผอม ยาว ยืดหยุ่นและโค้งงอได้
มีกล้องวีดีโอและดวงไฟขนาดเล็กมากติดอยู่ที่ปลายท่อ
เมื่อทำการขยับและปรับกล้องส่องลำไส้อย่างเหมาะสมแล้ว
แพทย์จะสามารถเคลื่อนไหวกล้องดังกล่าวในลำไส้ให้ไปในทิศทางที่ต้องการได้
ภาพที่กล้องบันทึกได้ในลำไส้ใหญ่จะปรากฏบนจอโทรทัศน์ ให้คุณภาพความคมชัดที่ดี
และสามารถเก็บรายละเอียดภายในลำไส้ใหญ่ได้ทั้งหมด
ซึ่งจะให้ความถูกต้องแม่นยำมากกว่าการทำเอกซเรย์
ใครบ้างที่ควรตรวจ
ผู้ที่มีความผิดปกติเกี่ยวกับการขับถ่ายอุจจาระ
เช่นท้องผูก หรือท้องเสียเป็นประจำ หรือท้องผูกสลับท้องเสียหรือมีอาการดังนี้
1. ถ่ายอุจจาระมีเลือดปน
อาจจะเป็นสีแดงสด หรือสีคล้ำ มีกลิ่นเหม็นผิดปกติ
2. เวลาเบ่งถ่ายอุจจาระมีติ่งเนื้อยื่นออกมาจากทวารหนักและมีเลือดออก
3. มีการแน่นอึดอัดท้อง
ท้องอืด ท้องเฟ้อและปวดท้องร่วมด้วย
4. มีก้อนในท้อง
น้ำหนักลด ซีด อ่อนเพลีย
5. ในผู้ที่มีอายุ
50 ปีขึ้นไป หากผลการตรวจปกติแนะนำให้ตรวจซ้ำทุก 10 ปี
6. ผู้ที่มีประวัติครอบครัวเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่
ควรเริ่มคัดกรองมะเร็งลำไส้ใหญ่ตั้งแต่อายุ 40 ปีหากผลการตรวจปกติ
แนะนำให้ตรวจซ้ำทุก 5 ปี
ประโยชน์ของการส่องกล้องตรวจลำไส้ใหญ่
1.ใช้ในการประเมินปัญหาที่เกิดขึ้นกับลำไส้ใหญ่
เช่น การเสียเลือด ความเจ็บปวด และอาการเปลี่ยนแปลงของลำไส้ใหญ่
เช่นท้องเสียเรื้อรัง หรืออาการผิดปกติอื่นๆ
ที่อาจตรวจพบมาแล้วจากการตรวจร่างกายก่อนหน้านี้
2.บ่งชี้ให้แพทย์ทราบและช่วยในการรักษาอาการเลือดออกในลำไส้ใหญ่
3.ใช้ในการตรวจหามะเร็งลำไส้ใหญ่และช่วยในการรักษาก้อนเนื้องอกแบบที่ไม่ใช่มะเร็ง(polyps)ที่เจริญเติบโตขึ้นที่บริเวณผนังลำไส้ใหญ่
การเตรียมตัวก่อนการส่องกล้อง
หนึ่งวันก่อนส่องกล้องตรวจลำไส้ใหญ่
ผู้ป่วยต้องรับประทานอาหารอ่อน งดผัก ผลไม้ ยาบำรุงเลือด ยาแก้ท้องเสีย
ผู้ป่วยจะได้รับยาระบายรับประทานเพื่อทำความสะอาดลำไส้ทั้งหมด เพราะขณะแพทย์ทำการส่องกล้องจะได้เห็นลักษณะพื้นผิวของลำไส้อย่างชัดเจน
การเตรียมลำไส้ดังกล่าวสามารถทำมาจากที่บ้านได้
โดยไม่จำเป็นต้องเข้าพักในโรงพยาบาล หลังรับประทานยาระบาย
ผู้ป่วยอาจมีถ่ายเหลวได้เฉลี่ย 6-8 ครั้ง
หากผู้ป่วยถ่ายมากเกินไปและมีอาการอ่อนเพลียอาจดื่มน้ำเกลือแร่ทดแทนได้
แต่ในบางรายที่ถ่ายท้องมากเกินไปและเพลียมาก
อาจให้น้ำเกลือทางเส้นเลือดเพื่อลดอาการอ่อนเพลีย
ก่อนทำการส่องกล้องผู้ป่วยจะได้รับการฉีดยานอนหลับและยาลดอาการปวด
เพื่อลดความรู้สึกตึงแน่นในท้องจากการเป่าลมเข้าไปเพื่อให้ลำไส้ขยายตัวออกเหมือนลูกโป่งที่พองตัว
แพทย์จะได้เห็นความผิดปกติภายในได้อย่างละเอียด ใช้ระยะเวลาในการทำโดยเฉลี่ย 15-30
นาที
อาการที่อาจพบได้ภายหลังการตรวจ
1. อาการท้องอืดท้องเฟ้อ
หรือปวดมวนท้องเล็กน้อยหลังรับการส่องกล้อง ซึ่งจะหายไปภายใน
24 ชั่วโมงหรือน้อยกว่านั้น
24 ชั่วโมงหรือน้อยกว่านั้น
2. เจ็บบริเวณท้องน้อย
หรือทวารหนัก อาการเหล่านี้จะค่อยๆทุเลาลง และหายไป
การปฏิบัติตัวภายหลังการตรวจ
1. ให้สังเกตอุจจาระ
อาจมีเลือดปนบ้างเล็กน้อย ถ้ามีเลือดออกมากผิดปกติ ให้รีบไปพบแพทย์
2. รายที่ได้รับยาระงับความรู้สึกทางหลอดเลือดดำ
โดยผู้ป่วยไม่รู้สึกตัวขณะตรวจ ห้ามขับรถหรือทำงานเกี่ยวกับเครื่องจักร
หรืองานที่ต้องใช้การตัดสินใจอย่างน้อย 24 ชั่วโมง
3. ต้องรอให้ถึงวันนัด