วันจันทร์ที่ 11 เมษายน พ.ศ. 2559

โรคนิ่วในไต (Renal Calculi)

 โรคนิ่วในไต (Renal Calculi)
โดย นพ.สุทธิพันธ์  วงศ์วนากุล      ศัลยแพทย์ระบบทางเดินปัสสาวะ โรงพยาบาลแมคคอร์มิค




           ผู้ป่วยหลายคนกังวลว่าตัวเองจะเป็นโรคไตหรือโรคนิ่วในไตเพราะสังเกตเห็นว่าตัวเอง ปัสสาวะผิดปกติไป เช่น ปัสสาวะบ่อย ปัสสาวะแสบขัด ปัสสาวะมีฟองมาก ปัสสาวะมีกลิ่นฉุนผิดปกติ หรือกระทั่งปัสสาวะมีสีเข้มมากขึ้น ซึ่งอาการเหล่านี้จริงๆแล้ว เกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ไม่จำเป็นต้องเป็นโรคนิ่วอย่างเดียวครับ
 

           “นิ่วก็คือก้อนหิน ที่อยุ่ในร่างกายของคน

เกิดขึ้นได้กับหลายอวัยวะเช่นนิ่วในไตและทางเดินปัสสาวะ, นิ่วในระบบน้ำดี, นิ่วในต่อมน้ำลาย และอวัยวะอื่นๆ 

       นิ่วมีด้วยกันหลายชนิด หลายสี หลายขนาด ความแข็งมีตั้งแต่ แข็งน้อยไปจนถึงแข็งมาก โดยทั้งหมดขึ้นอยุ่กับองค์ประกอบของนิ่ว ซึ่งที่นิ่วที่พบมากที่สุด คือนิ่วที่มี แคลเซียม เป็นองค์ประกอบส่วนนิ่วที่แข็งที่สุดคือนิ่ว Cystine ซึ่งพบได้น้อย

ไตนั้นเป็นอวัยวะทีมีความสำคัญมากคือเป็นที่ขับของเสียในร่างกายออกมาในรูปน้ำปัสสาวะ และรักษาสมดุลของร่างกาย
          ไตของมนุษย์มีด้วยกัน 2 ข้าง อยู่บริเวณสีข้างหรือเอว ดังนั้นเมื่อมีความผิดปกติ ผู้ป่วยมักมีอาการปวดเอวหรือปวดท้องข้างใดข้างหนึ่งร่วมกับปัสสาวะที่ผิดปกติไป

         นิ่วในไตนั้นเป็นสาเหตุหนึ่งของ
โรคไตวายเรื้อรัง
         แต่ถ้ารักษาได้ทันท่วงที
ก็จะทำให้ไตทำงานได้ดีเป็นปกติ

    ผู้ป่วยนิ่วในไตส่วนใหญ่มักไม่มีอาการแสดง มักเจอโดยบังเอิญ จากการตรวจเช็คร่างกายแล้วพบความผิดปกติของน้ำปัสสาวะ บางคนอาจมีอาการปวดเอวเรื้อรัง ตอดเชื้อทางเดินปัสสาวะเป็นๆหายๆ  หรือบางครั้งมาพบแพทย์ ด้วยอาการของไตวายซึงเป็นภาวะที่ยากต่อการรักษาให้ไตกลับมาทำงานเป็นปกติ ดังนั้นผมจึงแนะนำว่า อายุตั้งแต่วัยทำงานขึ้นไป ควรตรวจสุขภาพกับแพทย์เป็นประจำทุกปีเพื่อการรักษาได้อย่างทันถ่วงที

     การตรวจวินิจฉัยโรคนิ่วในไต มีด้วยกันหลายวิธี เช่น x- ray ทั่วไป, Ultrasound, X-ray ฉีดสารทึบรังสี และX-ray computer ( CT scan )   ซึ่งขึ้นอยู่กับอาการ และการประเมินผู้ป่วยแต่ละราย ส่วนการรักษาก็มีหลายวิธี เริ่มตั้งแต่นิ่วขนาดเล็กมาก อาจสังเกตอาการไปก่อนเพื่อให้นิ่วหลุดเอง การใช้ยาสลายนิ่ว การใช้เครื่องสลายนิ่ว(ESWL) การส่องกล้องทางท่อปัสสาวะ(RIRS) ส่วนนิ่วที่มีขนาดใหญ่อาจรักษาด้วยการเจาะรูบริเวณสีข้างเพื่อเข้าไปในไตแล้วจึงเอานิ่วออก(PCNL) สุดท้ายคือการผ่าตัดแผลกว้างบริเวณเอวเพื่อนำนิ่วออกจากไต

  สาเหตุของการเกิดโรคนิ่วในไต
มีหลายสาเหตุ เช่น 
- พันธุกรรม 
- ความผิดปกติของเมตาบอลิซึ่ม(Metabolism)ใน    ร่างกาย 
- ดื่มน้ำน้อยและเสียเหงื่อมาก
- ติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ 
- โรคลำไส้อักเสบเรื้อรัง
   หรือเคยผ่าตัดลำไส้มากก่อน   
- คนอ้วน
- รับประทานอาหารที่มีรสเค็ม
- เนื้อสัตว์ อาหารที่มี ออกซาเลต(oxalate) สูง (ชาดำ  โกโก้  ผักขม  ช็อคโกแลต  ถั่ว  เป็นต้น) 
- ยาบางชนิด เช่น steroid  ยาขับปัสสาวะ  ใช้ยาระบายอุจจาระเป็นประจำ- โรคมะเร็ง  ภาวะท่อไตอุดตัน 
- ผู้ป่วยที่เคยเป็นนิ่วมาก่อนจะมีโอกาสเกิดนิ่วซ้ำได้มากกว่าคนทั่วไป



     ดังนั้น เราควรปฏิบัติตัวเพื่อลดความเสี่ยงของโรคนิ่วในไต
   คือ ดื่มน้ำประมาณ 2ลิตรต่อวัน  ดื่มน้ำส้ม น้ำมะนาว ลดความอ้วน  ออกกำลังกาย   ลดอาหารรสเค็ม  เนื้อหมู  เนื้อไก่  เนื้อวัว  ควรรับประทานเนื้อปลา ลดอาหารที่มี ออกซาเลต  ไม่ควรกินวิตามินซีเกิน 2 กรัมต่อวัน ควรรับประทาน แคลเซียม เพราะ แคลเซียมจะช่วยลดการดูดซึมของ ออกซาเลตในลำไส้  หลีกเลี่ยงการใช้ยาบาง
ชนิดเป็นประจำ สุดท้ายควรตรวจสุขภาพสม่ำเสมอเพราะจะสามารถตรวจพบนิ่วในระยะเริ่มเป็นได้ครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

โรคไบโพล่าร์ (Bipolar Disorder)

Embed from Getty Images  โรคไบโพล่าร์ (Bipolar Disorder)            ปัจจุบันโลกเราทุกวันนี้มีแต่การแข่งขัน แก่งแย่งกันตลอดเวลา จนทำ...