วันจันทร์ที่ 4 เมษายน พ.ศ. 2559

โรคท้องร่วงจากไวรัสโรต้า

โรคท้องร่วงจากไวรัสโรต้า
โดย พญ.สิดาพัณณ์  ยุตบุตร      กุมารแพทย์ โรงพยาบาลแมคคอร์มิค



            จากอุบัติการณ์ทั่วโลก สาเหตุของอาการท้องร่วงที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัส ซึ่งในเด็กเล็ก

                                     “เชื้อไวรัสโรต้า” นับเป็นเชื้อไวรัสที่พบบ่อยที่สุด  

           ก่อให้เกิดอาการท้องร่วงอย่างรุนแรงเมื่อเทียบกับอาการท้องร่วงที่   มาจากการติดเชื้อไวรัสอื่นๆ แม้แต่ประเทศที่พัฒนาแล้วในแถบยุโรป และสหรัฐอเมริกาก็ยังสามารถเกิดโรคนี้ได้ โดยเฉพาะในอเมริกาที่มีการระบาดของโรคท้องร่วงจากเชื้อไวรัสโรต้า ซึ่งในแต่ละปีมีผู้ป่วยโรคนี้นับล้านคน แต่ที่น่าตกใจไปกว่านั้นคือ มีเด็กเสียชีวิตจากโรคนี้เฉลี่ย 100 คนต่อปี และรุนแรงที่สุดทั่วโลก โดยมีเด็กเสียชีวิตถึงปีละล้านคน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความเจริญก้าวหน้าทางการแพทย์ของแต่ละพื้นที่ในการรักษา และช่วยชีวิตเด็กไว้ได้มากน้อยแค่ไหน โดยจะเห็นได้ว่าแม้แต่ประเทศที่มีความรู้ด้านสาธารณสุขและสุขอนามัยก็ไม่สามารถหลีกเลี่ยงให้พ้นจากกการติดเชื้อไวรัสโรต้าได้ ฉะนั้นทุกคนควรหันมาทำความรู้จักกับไวรัสโรต้าให้มากขึ้น เพื่อเตรียมรับมือกับโรคนี้ได้อย่างถูกต้อง



           แม้เชื้อไวรัสตัวนี้จะพบมากในช่วงฤดูหนาว แต่ก็ขึ้นอยู่กับการดูแลรักษาความสะอาดสุขภาพอนามัย เพราะทุกคนสามารถรับเชื้อได้จากการรับประทานอาหารที่มีเชื้อโรคปะปนอยู่ โดยเฉพาะในเด็กที่ชอบหยิบสิ่งของเข้าปากชอบอมของเล่นที่มีเชื้อโรคเกาะอยู่ เนื่องจากเชื้อไวรัสโรต้าจะมีชีวิตอยู่ตามวัตถุสิ่งของใน  อุณภูมิปกติ โดยระยะฟักตัวของโรคนี้จะเกิดขึ้นหลังจากได้รับเชื้อ 48 ชั่วโมง




ไวรัสโรต้า (Rotavirus) เป็นเชื้อไวรัสชนิดหนึ่งที่ทำให้เกิดโรคท้องร่วงในเด็กเล็ก โดยมักจะเกิดกับเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 5 ปี โดยเชื้ออาจติดตามมากับมือ ของเล่นที่เปื้อนน้ำมูก น้ำลาย หรืออุจจาระของผู้ที่ติดเชื้อ เมื่อเด็กสัมผัส และเอามือเข้าปาก เชื้อโรคก็จะเข้าสู่ร่างกายโดยตรงทำให้มีไข้ ปวดท้อง อาเจียน และท้องเสียได้ 




คุณแม่อย่านิ่งนอนใจในอาการท้องร่วงของลูกน้อย เพราะถ้าละเลยโดยเฉพาะในเด็กอ่อนหากเป็นมากอาจช๊อคและเสียชีวิตได้
โดย 4 สัญญาณเตือนภัยร้ายจาก “ไวรัสโรต้า” 
ที่ควรรีบมาพบแพทย์  
คือ มีอาการของการขาดสารน้ำรุนแรง ได้แก่
       
    1. มีอาการซึม ไม่มีแรง มือเท้าเย็น
    2. มีอาการอาเจียนมาก หรือถ่ายมากผิดปกติ
    3. มีปัสสาวะสีเข้ม ปัสสาวะน้อย หรือไม่มีปัสสาวะเลยเกิน 6 ชั่วโมง
    4. มีอาการตาไหล ร้องไห้ไม่มีน้ำตา หรือเด็กเล็กๆ จะมีกระหม่อมบุ๋ม

     
        อย่างไรก็ตาม การดูแลสุขภาพของลูกน้อยให้ปลอดภัยจากโรคท้องร่วงจึงเป็นเรื่องสำคัญ ซึ่งปัจจุบันไวรัสโรต้า เป็นเชื้อไวรัสที่ไม่มียารักษา ดังนั้นการรักษาจึงสามารถทำได้โดยรักษาตามอาการเท่านั้น  


               วิธีป้องกันที่ดีที่สุด  คือการล้างมือบ่อยๆก่อนรับประทานอาหารทุกครั้ง หมั่นดูแลทำความสะอาดสิ่งของเครื่องใช้ พร้อมเสริมภูมิคุ้มกันด้วยนมแม่ และหลีกเลี่ยงการพาเด็กไปในสถานที่แออัด โดยเฉพาะช่วงที่มีการระบาดของโรค ซึ่งในปัจจุบันพ่อแม่สามารถป้องกันการติดเชื้อไวรัสโรต้าได้ตั้งแต่เนิ่นๆด้วยการรับวัคซีนเสริมภูมิคุ้มกัน โดยเริ่มหยอดวัคซีนได้ตั้งแต่อายุ 6 สัปดาห์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

โรคไบโพล่าร์ (Bipolar Disorder)

Embed from Getty Images  โรคไบโพล่าร์ (Bipolar Disorder)            ปัจจุบันโลกเราทุกวันนี้มีแต่การแข่งขัน แก่งแย่งกันตลอดเวลา จนทำ...