วันพฤหัสบดีที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

โรคข้อเข่าเสื่อม

โรคข้อเข่าเสื่อม



โรคข้อเข่าเสื่อม  หมายถึง สภาวะที่ข้อเข่ามีการเสื่อมสภาพ ในส่วนของกระดูกอ่อนที่คลุมผิวข้อมีการสึกหรอ มีการอักเสบของเผื่อหุ้มข้อ ตลอดจนมีการงอกของกระดูก

กลไกการเกิดข้อเข่าเสื่อม :  กระดูกอ่อนที่เป็นส่วนผิวสัมผัสและรองรับน้ำหนักของข้อเข่า เกิดการ  สึกหรอ เสื่อมสภาพ โดยมีสาเหตุมาจาก การเสื่อมสภาพตามอายุ การใช้งาน และน้ำหนักที่กดทับบนผิวข้อเป็นเวลานาน จากสภาวะผิดปกติที่เกิดขึ้นนำมาก่อน เช่น  การติดเชื้อในข้อ ข้ออักเสบเรื้อรัง การเกิดอุบัติเหตุที่มีผลต่อข้อ



เมื่อมีการสึกหรอ หรือเสื่อมสภาพในส่วนของกระดูกอ่อนรองรับน้ำหนัก จะทำให้การขยับของ ผิวข้อไม่ราบรื่นรู้สึกว่ามีเสียงดังในข้อ และการเสียดสีจะกระตุ้นให้เกิดการอักเสบที่เยื่อหุ้มข้อ เกิดมีการสร้างน้ำไขข้อที่คุณภาพไม่ดีมากขึ้น ทำให้มีอาการเข่าบวม ปวดตึงในข้อเข่า เมื่อมีการอักเสบเกิดขึ้นบ่อยครั้ง มีการสึกหรอมากขึ้นก็จะเกิดกระดูกงอกที่ผิวข้อตามมา การเกิดกระดูกงอกและการสึกหรอของผิวข้อ ชักนำให้เกิดการผิดรูปของข้อเข่า เกิดมีสภาวะขาโก่ง เมื่อมีการยืน การเดินในสภาวะที่ข้อเข่าโก่ง แนวการรับน้ำหนักของเข่าก็จะผิดปกติไป สมดุลของเอ็นหัวเข่าก็จนเปลี่ยนไปทำให้เกิดการเดินลำบากมากขึ้น



การรักษา     ประกอบด้วย
1.    ความเข้าใจในโรคข้อเข่าเสื่อม : โรคข้อเข่าเสื่อมเป็นสภาวะที่เกิดขึ้นแล้ว ไม่สามารถหยุดกระบวนเสื่อม หรือ  รักษาฟื้นฟูให้สภาวะข้อเข่าเสื่อมกลับไปเหมือนในวัยหนุ่มสาวได้ แต่   สามรถชะลอสภาวะดังกล่าวได้ ความเข้าใจในการดูแลรักษาข้อเข่าจึงเป็นปัจจัยที่สำคัญมากในการรักษา โดยมีแนวทางดังนี้

-                 การลดน้ำหนัก    เป็นสิ่งสำคัญมาก เพื่อลดแรงกดที่กระทำต่อผิวกระดูกอ่อน
-                 หลีกเลี่ยงท่าที่ต้องงอเข่ามาก   เช่น การนั่งยองๆ  นั่งขัดสมาธิ   นั่งพับเพียบ  นั่งคุกเข่า     การงอเข่ามากจะทำให้เกิดแรงกดต่อผิวกระดูกมากว่าปกติ
-          การใช้เครื่องพยุงช่วยเดิน เพื่อช่วยพยุงและถ่ายน้ำหนักจากเข่า



2.       การใช้ยา
-                    ยาแก้ปวด    ใช้เพื่อระงับอาการปวด ได้แก่ ยาพาราเชตามอล
-                    ยาลดอาการอักเสบ  (NSAIDS)  ออกฤทธ์ลดการอักเสบในข้อเข่า  ซึ่งการอักเสบทำให้เกิดอาการปวดเมื่อการอักเสบลดลงหรือหายไป  อาการปวดก็จะดีขึ้นตามมา  การใช้ยากลุ่มนี้จึงควรใช้ตามเวลาที่กำหนด เพื่อใช้ลดอาการอักเสบของข้อจนหมดและควรมีการพักการใช้งานของข้อร่วมด้วยเพื่อลดการกระตุ้นการอักเสบซ้ำ ยากลุ่มนี้ไม่ควรใช้ในกลุ่มผู้ป่วยที่มีการทำงานของไตไม่ดี  ยากลุ่มนี้มีผลข้างเคียงเรื่องระคายเคืองกระเพาะอาหาร  แม้ในยารุ่นใหม่ที่พัฒนาเพื่อลดการระคายเคืองกระเพาะ  ก็มีข้อควรระวังในกลุ่มผู้ป่วยที่มีแผลในทางเดินอาหาร  และมีข้อควรระวังในกลุ่มผู้ป่วย โรคหลอดเลือดและหัวใจ
-                      ยาคลายกล้ามเนื้อ  เป็นยาที่ใช้ประกอบการรักษา  เพื่อลดอาการกล้ามเนื้อเกร็งตัว อันเป็นผลจากการอักเสบของข้อเข่า
-                      ยากลุ่มกลูโคซามีนและน้ำไขข้อเทียม    ยากลุ่มนี้ยังมีข้อถกเถียงอยู่มากถึง ประสิทธิภาพและความคุ้มค่าของการใช้ยากลุ่มนี้  โดยกลุ่มแพทย์ทางสหรัฐอเมริกา  ไม่แนะนำให้ใช้ใน    การรักษา  กลุ่มแพทย์ทางยุโรป ใช้ในการรักษาโรคข้อเข่าเสื่อมโดยอ้างถึงการศึกษาวิจัยพบว่า  ยากลุ่มนี้มีผลเพิ่มความหนาของกระดูกอ่อนและช่วยชะลอการเสื่อมของข้อเข่าได้  ในประเทศไทย สำนักงานอาหารและยา (อย.) อนุญาติให้มีการใช้ยากลุ่มนี้ในประเทศได้.
คำแนะนำเรื่องการใช้ยากลูโคซามีน  แนะนำให้ใช้ในกลุ่มผู้ป่วยข้อเข่าเสื่อมระยะแรกๆ ที่ข้อยังไม่มีการผิดรูป  และมีข้อควรระวังในกลุ่มผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดต้อหิน เพราะมีการศึกษาพบว่าจะทำให้ความดันลูกตาสูงขึ้นในกลุ่มผู้ป่วยต้อหินแบบเปิด
-                        ยาสเตียรอยด์     มีประโยชน์ในการลดอาการอักเสบ  ในข้อเข่าเสื่อม อย่างไรก็ดีแนะนำให้ฉีดไม่เกิน 3 ครั้งต่อปี และการใช้ยาสเตียรอยด์ ฉีดเข้าไปในข้อเข่าจะมีผลต่อผิวกระดูกอ่อน การใช้ในปริมาณสูงหรือบ่อยครั้งก็จะมีผลไปสู่ส่วนอื่นของร่างกายไปกดการทำงานของต่อมหมวกไตได้


3.       การผ่าตัด
-                     การส่องกล้องข้อเข่า (Arthroscopy)  คือการที่แพทย์ทำการเจาะข้อผ่านรูขนาดเล็ก 2-3 รูแล้วทำการสอดกล้องและเครื่องมือเข้าไปในข้อเข่า  เพื่อทำการส่องดูพยาธิสภาพในข้อและทำการซ่อมแซม  ภายในข้อเข่าในโรคข้อเข่าเสื่อมนั้น  ภายในข้อจะมีเศษชิ้นส่วนของเนื้อเยื่อและกระดูกอ่อนบางส่วนลอยปะปนในน้ำไขข้อ  อาจพบว่ามีการฉีกขาดบางส่วนของหมอนรองกระดูก การทำความสะอาด (Larvage)  และการตัดซ่อมเนื้อเยื่อที่บาดเจ็บ เพื่อหวังผลลดการอักเสบและช่วยให้เนื้อเยื่อฟื้นฟูสภาพ

-                     การผ่าตัดใส่ข้อเทียม    เป็นการผ่าตัดส่วนของผิวกระดูกอ่อนและกระดูกบางส่วนออกและใส่วัสดุเทียมไปทดแทน  วัสดุเทียมในปัจจุบัน มีหลายชนิด ได้แก่  พลาสติดแข็ง   Polyethelene  เซรามิค  ข้อจำกัดของข้อเข่าเทียมคือ มีอายุการใช้งานโดยเฉลี่ยประมาณ 10 ปี การผ่าตัดข้อเข่าเทียม เหมาะกับผู้ป่วยโรคข้อเข่าเสื่อมที่เป็นระยะสุดท้ายซึ่งมีข้อเข่าผิดรูปมาก


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

โรคไบโพล่าร์ (Bipolar Disorder)

Embed from Getty Images  โรคไบโพล่าร์ (Bipolar Disorder)            ปัจจุบันโลกเราทุกวันนี้มีแต่การแข่งขัน แก่งแย่งกันตลอดเวลา จนทำ...