โรคพิษสุนัขบ้าหรือ โรคกลัวน้ำ เกิดจากเชื้อไวรัสชนิดหนึ่งชื่อว่า เรบี่ส์ (Rabies) ซึ่งทำให้เกิดโรคในสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม สุจัขและแมวเป็นสัตว์แพร่เชื้อโรคพิษสุนัขบ้าที่สำคัญที่สุดมาสู่มนุษย์
คนที่ติดเชื้อพิษสุนัขบ้า เชื้อไวรัสจะทำลายระบบประสาททำให้มีอาการปวดเมื่อย เพลีย มีไข้ ปวดศรีษะ กลัวน้ำ กลัวลม กระสัมกระส่าย มีอาการทางระบบประสาทเป็นอัมพาตและเสียชีวิตในที่สุด ปัจจุบันยังไม่มียารักษาโรคพิษสุนัขบ้าได้ หากติดเชื้อแล้วไม่ได้รับการรักษาทันท่วงทีหรือปล่อยทิ้งไว้จะเสียชีวิตทุกราย
- คนติดโรคพิษสุนัขบ้าจากทางใด : จากการสัมผัสสัตว์ที่เป็นโรคพิษสุนัขบ้า เชื้อจะเข้าสู่ร่างกายทางบาดแผล รอยถลอกที่ถูกสัตว์กัด ข่วน หรือ โดนน้ำลายจากสัตว์เลีย ทั้งบริเวณริมฝีปากหรือ เยื่อบุตา
- รู้ได้อย่างไรว่าสัตว์เป็นโรคพิษสุนัขบ้า สัตว์จะมีอาการหงุดหงิด ตื่นเต้น วิ่งพล่าน ไล่กัดคนและสัตว์อื่น ๆ อย่างดุร้าย ถ้าเป็นสุนักจะดุร้าย 2-3 วัน หลังจากนั้นจะอ่อนเพลีย ขาหลังไม่มีแรง เดินโซเซและตายในที่สุด
- จะปลอดภัยจากโรคพิษสุนัขบ้าได้อย่างไร ควรหลีกห่างจากสุนัขจรจัด ส่วนสตว์เลี้ยงในบ้านให้นำไปฉีดวัคซีนสัตว์ทุก ๆ ปี อคกประการคือในคนสามารถฉีดวัคซีนป้องกันโรคแบบล่วงหน้าก่อนถูกสัตว์กัด ซึ่งปัจจุบันวัคซีนมีความปลอดภัยสูงและประทิทธิภาพดี
- ล้างแผลด้วยน้ำและสบู่หลาย ๆ ครั้ง โยให้น้ำไหลผ่านมาก ๆ และทายาฆ่าเชื้อ เช่น โพวิโดนไอโอดีน หรือ แอลกอฮอล์
- จดจำสัตว์น้ำให้ได้ เพื่อสืบหาเจ้าของและสอบถามประวัติความเสี่ยงต่อโรคพิษสุนัขบ้า
- ไปพบแพทย์ทันทีเพื่อรับการดูแลที่ถูกต้อง ซึ่งแพทย์จะฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าและเซรุ่มตามความเหมาะสม
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------
2. โรคมือเท้าปากเปื่อย
- เป็นโรคที่พบบ่อยในเด็กเล็กต่ำกว่า 5 ปี พบมากช่วงหน้าฝนเด็กจะมาด้วยไข้ ร่วมกับมีผื่นเป็นตุ่มน้ำใสในช่องปากฝ่ามือและฝ่าเท้า
- สาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากการติดเชื้อไวรัส โดยได้รับไวรัสเข้าสู่ปากโดยตรง โดยไวรัสอาจติดมากับมือ หรือของเล่นที่เปื้อนน้ำลาย น้ำมูก น้ำจากตุ่มพองหรืออุจจาระของผู้ป่วย
- ส่วนใหญ่อาการไม่รุนแรง เด็กจะเริ่มมีไข้ อ่อนเพลียต่อมามีอาการเจ็บปาก ไม่ยอมทานอาหาร จะสังเกตุพบตุ่มแดงบริเวณลิ้น เหงือกและกระพุ้งแก้ม ต่อมาตุ่มจะพองใสและแตกเป็นแผลตื้นและยังพบตุ่มลักษณะนี้บริเวณฝ่ามือ นิ้วมือ ฝ่าเท้าตุ่มนี้จะหายได้เองในเวลา 7 - 10 วัน
- โรคนี้ยังไม่มียารักษาเฉพาะ แต่จะให้ยาตามอาการ เช่นยาลดไข้ ควรให้เด็กได้รับสารน้ำให้เพียงพอเพื่อป้องกันการขาดน้ำ ในเด็กที่เจ็บปากมากอาจแนะนำให้ทานอาหารเหลวและเย็นเพื่อบรรเทาอาการเจ็บปาก
- ตามปกติเป็นโรคที่ไม่รุนแรง แต่เชื้อไวรัสาบางชนิด อาจทำให้มีอาการรุนแรงได้ จึงควรสังเกตอาการอย่างใกล้ชิด หากพบมีไข้สูงลอย ซึม รับประทานอาการไม่ได้ อาเจียนบ่อย หายใจหอบ แขนขาอ่อนแรง ควรรีบพามาพบแพทย์ทันที
- โรคนี้ยังไม่มีวัคซีน ป้องกัน แต่ป้องกันด้วยรักษาสุขอนามัย ควรตัดเล็บให้สั้น หมั่นล้างมือบ่อย ๆ โดยเฉพาะหลังขับถ่ายและก่อนรับประทานอาหาร
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น