สาเหตุ
- เกิดจากการใช้มือทำงานซ้ำ ๆ เป็นเวลานานหลาย ๆ ปี เช่น การพิมพ์ดีด การใช้แป้นพิมพ์คอมพิวเตอร์การห่อของในโรงงาน เป็นต้น
- จากอุบัติเหตุ ทำให้ข้อมือช้ำ กระดูดหัก ข้ออักเสบ
- จากโรคทั่วไปของร่างกาย เช่น โรคเบาหวาน ต่อมไทรอยด์ เนื้องอกบริเวณข้อมือ เป็นต้น
อาการ
อาการเริ่มต้นมักจะเป็นน้อย ๆ แล้วค่อย ๆ เป็นมากขึ้น เริ่มด้วยอาการปวดที่ข้อมือและมักจะปวดกลางคืนมากกว่ากลางวัน บางครั้งปวดจนตื่นกลางดึกต้องลุกขึ้นสะบัดมือสักพักแล้วค่อยทุเรา พอเป็นมากขึ้นจะมีอาการชาที่นิ้วมือ นิ้วชี้และนิ้วกลาง ทางด้านอุ้งมืออาจมีความรู้สึกเหมือนนิ้วหนาและหนักและกล้ามเนื้อฝ่อ ถ้าเป็นนาน 4 - 5 เดือน อาการมักจะเป็นตลอดเวลา
การป้องกัน
- พยายยามอย่าใช้ข้อมือเคลื่อนไหวซ้ำ ๆ นานเกินไป เช่น การใช้คีมหยิบจับอุปกรณ์ชิ้นเล็ก ๆ ซ้ำ ๆ
- เวลาที่ใช้เครื่องมือ ด้วยท่าที่ถือข้อมือจับแทนที่จะใช้นิ้วจับ
- พยายามใช้มือ ด้วยท่าทีถือข้อมือตรง ไม่งอมาก อาจใช้ที่ดามข้อมือช่วย
- เปลี่ยนการใช้มือซ้าย - ขวา พักการใช้มือครั้งคราว พยายามลดความกดดันมือเวลาใช้มือ
การรักษา
- ใช้ที่ดามข้อมือ ตลอดทั้งกลางคืน - กลางวัน
- รับประทานยาแก้อักเสบ
- การทำกายภาพบำบัด
- การฉีดยา
- การผ่าตัดผ้าเส้นพักผืดกดเส้นประสาทโดยการฉีดยาชาที่ข้อมือ อาการจะหายเร็วและได้ผลดีมาก
ในกรณีที่ปวดจากเอ็นข้อมืออักเสบ ซึ่งเป็นโรคปวดข้อมือที่พบบ่อยที่สุด
ช่วงที่ปวดอยู่
- หลีกเหลี่ยงกิจกรรมที่ทำแล้วปวด
- ประคบบริเวณที่ปวดนาน 30 นาที วันละ 1-2 ครั้ง หรือ อาจจะประคบด้วยความเย็น โดยใช้น้ำแข็งห่อผ้าขนหนูประคบที่ปวดนาน 10-15 นาที บ่อย ๆ ได้ตามความต้องการ แต่ควรเว้นช่วงในการประคบมากกว่า 30 นาที แล้วจึงประคบใหม่อีกครั้ง
ช่วงที่หายปวดแล้ว
This is a great post. I was reading an article I found on this awesome website http://CarpalTunnelSyndrome.tk/carpaltunnelsyndrome/ and it actually concurs with the information above.
ตอบลบThanks for keeping us well informed.
ท่าบริหารที่แนะนำ ชาและปวดทุกท่า ปวดตรงข้อมือ แต่เปนด้านหลังมือนะค่ะ กดตรงรอยต่อกระดูกจะเจ็บจิ๊ดแล้วก้อค่อยๆชา เปนอะไรกันแน่ค่ะ เบื่อ รพ.เลี้ยงไข้ ปวดจะแย่ หงุดหงิดด้วยค่ะ ช้
ตอบลบอาการปวดข้อมือ คงต้องพบแพทย์ และแจ้งถึงอาการที่ยังมีอยู่ เพราะอาการชา และ ปวด ก็มีหลายสาเหตุด้วยกันค่ะ ถ้าเบื้องต้นไม่หาย แพทย์ก็จะมีการวินิจฉัยที่เป็นขันตอนต่อไปนะคะ
ลบ