วันจันทร์ที่ 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2559

ไส้ติ่งอักเสบ (Appendicitis)

ไส้ติ่งอักเสบ (Appendicitis)
โดย นพ.อาณัติ  วณิชชากร   ศัลยแพทย์ โรงพยาบาลแมคคอร์มิค


ไส้ติ่งเป็นส่วนขยายของลำไส้ใหญ่ส่วนต้น อยู่ทางขวาของช่องท้องส่วนล่าง ในภาษาอังกฤษเรียกว่า vermiform appendix (ติ่งรูปหนอน) แต่ความจริงไส้ติ่งมีลักษณะเป็นถุงแคบและยาว ปากถุงต่อกับลำไส้ใหญ่ส่วนซีกัม(caecum) กว้างเพียง 5-8 มม.ก้นถุงลึกประมาณ 8-10 ซม.(ในผู้ใหญ่)

ไส้ติ่งอักเสบเป็นโรคที่เกิดกับไส้ติ่ง เป็นอาการที่เกิดขึ้นอย่างฉับพลัน ซึ่งถือว่าเป็นภาวะฉุกเฉินทางการแพทย์ ผู้ป่วยไส้ติ่งอักเสบทุกรายต้องได้รับการผ่าตัดเอาไส้ติ่งออก หากไม่ได้รับการรักษา หรือปล่อยปละละเลย จะมีอัตราการตายสูง การเสียชีวิตส่วนใหญ่เกิดจากภาวะ เยื่อบุช่องท้องอักเสบและภาวะช็อค

สาเหตุ

            
เกิดจากการที่มีการอุดตันของไส้ติ่ง โดยอาจจะอุดตันจากเศษอุจจาระขนาดเล็ก วัตถุแปลกปลอม หรือตัวพยาธิ ทำให้ไม่มีการระบายถ่ายเทและเกิดการเพิ่มความดันภายในไส้ติ่ง ซึ่งต่อมาจะทำให้ไส้ติ่งบวม แดง มีการเจริญเติบโตของแบคทีเรียอย่างรวดเร็ว ทำให้เกิดเป็นหนอง และถ้าเป็นมากขึ้นก็อาจทำให้ไส้ติ่งแตก 

อาการไส้ติ่งอักเสบที่เราสามารถสังเกตได้เบื้องต้น มีดังนี้


1.ปวดท้องบริเวณสะดือ
           สัญญาณแรกของอาการไส้ติ่งอักเสบนั้นจะเริ่มแสดงให้เห็นจากการปวดท้องด้านขวาล่าง แล้วจึงค่อยๆ ปวดตรงบริเวณสะดือ และจะเคลื่อนลงไปที่ช่องท้องส่วนล่าง ซึ่งในบางราย อย่างเช่นเด็กและสตรีมีครรภ์อาจจะเกิดอาการปวดที่ส่วนอื่นๆ ของช่องท้อง อาการปวดเหล่านี้จะยิ่งเลวร้ายลงหากขยับขาและบริเวณท้องซึ่งมาจากการไอ จาม หรือสั่นสะเทือนในขณะที่นั่งอยู่บนรถที่ขับในทางขรุขระ

2.เกิดอาการปวดท้องอย่างเฉียบพลัน
         อาการปวดที่บริเวณส่วนล่างของช่องท้องจะหนักขึ้น จนทำให้ผู้ป่วยรู้สึกว่าเป็นการปวดที่มากที่สุดในชีวิต  ซึ่งอาการไส้ติ่งอักเสบนั้นมีความรุนแรงมากพอที่จะปลุกผู้ป่วยที่กำลังหลับอยู่ให้ตื่นขึ้นมาได้ โดยอาการปวดท้องนี้จะทวีความเจ็บปวดมากขึ้นในเวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมง

3.มีไข้ต่ำๆและหนาวสั่น
           อาการไส้ติ่งอักเสบนั้นคล้ายคลึงกับอาการปวดท้องที่เนื่องมาจากอาการติดเชื้อบางอย่างที่ไม่รุนแรง และจะส่งผลให้เกิดไข้ต่ำๆ และอาการหนาวสั่นได้ ซึ่งถ้าหากคุณมีอาการไข้ต่ำๆ เพียงอย่างเดียวก็ไม่จำเป็นต้องกังวลอะไร แต่ถ้าหากคุณมีอาการไข้ต่ำๆ รวมกับอาการปวดท้อง จนทำให้คุณไม่มีแรงยืนขึ้นให้ตรงได้ แสดงว่าคุณเป็นไส้ติ่งอักเสบแล้ว

4.คลื่นไส้ อาเจียน และเบื่ออาหาร
            ถ้าหากในช่วง2 - 3วันมีอาการเบื่ออาหารร่วมกับอาการคลื่นไส้อาเจียน มักจะเป็นอาการที่เกี่ยวข้องกับการติดเชื้อบางชนิดที่ไม่รุนแรง แต่ถ้าหากอาการเลวร้ายลง มีอาการไข้และปวดบริเวณช่องท้องด้านขวาล่าง ควรจะรีบไปพบแพทย์

5.ท้องผูกหรือท้องเสีย
            ถ้าหากมีอาการท้องเสียไม่รุนแรงและมูกปนออกมาด้วยมากผิดปกติร่วมกับอาการปวดช่องท้องด้านขวาล่าง มักแสดงถึงอาการไส้ติ่งอักเสบ

6.ท้องอืด และมีแก๊สในกระเพาะอาหาร
            มักจะมีอาการท้องอืดและแก๊สในกระเพาะอาหารติดต่อกันมากกว่า 2 วัน พร้อมกับอาการปวดภายในช่องท้องโดยเฉพาะปวดท้องด้านขวาล่าง ร่วมกับมีอาการไข้

การรักษา



            หากว่ามีอาการดังกล่าวหรือสงสัยว่าจะเป็นควรรีบไปพบแพทย์ ซึ่งในระหว่างนี้ควรงดน้ำและอาหารก่อน ซึ่งการรักษาในปัจจุบันที่ดีที่สุดคือการผ่าตัดเอาไส้ติ่งออก  การกินยาแก้ปวดหรือฉีดยาแก้ปวด อาจจะทำให้อาการปวดลดลงได้ แต่จะเป็นผลเสียกับคนไข้ เพราะจะทำให้ตรวจพบได้ช้า และกว่าจะมาปวดอีกที ไส้ติ่งอาจจะแตกแล้วก็ได้

        ไส้ติ่งอักเสบ เป็นอาการที่จำเป็นจะต้องได้รับการรักษาอย่างเร่งด่วน หากทิ้งไว้เรื้อรังอาจเป็นอันตรายได้ ดังนั้นถ้าหากมีอาการอย่างที่กล่าวมาข้างต้น ควรจะรีบไปพบแพทย์อย่างด่วนเลยนะคะ เพื่อความปลอดภัยในชีวิต

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

โรคไบโพล่าร์ (Bipolar Disorder)

Embed from Getty Images  โรคไบโพล่าร์ (Bipolar Disorder)            ปัจจุบันโลกเราทุกวันนี้มีแต่การแข่งขัน แก่งแย่งกันตลอดเวลา จนทำ...